ตอนแรกผมเรียนที่โรงเรียนเอื้อแววมณี ผมค่อนข้างมีปัญหากับเพื่อนรวมห้องไม่ว่าจะทำเพื่อน
หัวแตก
พอผมเข้าอนุบาล 1 ที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา พี่ผมก็อยู่ ป.1
วันแรกที่ผมไปโรงเรียน
แม่ผมบอกว่าให้ผมตั้งใจเรียน จากนั้นผมก็วิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นกับเพื่อน
แม่ผมบอกว่าให้ผมตั้งใจเรียน จากนั้นผมก็วิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นกับเพื่อน
เพื่อนที่ผมคุยคนแรก คือ เพื่อนผู้ชาย ผมไม่ร้องไห้เหมือนเพื่อนๆ พอขึ้นอนุบาล 2 ผมก็เริ่มปรับตัวได้เริ่มทำงานเร็วขึ้น
พองานเสร็จผมก็จะไปวิ่งเล่นคนเดียวอีกอย่างหนึ่งที่ผมทำได้เร็วคือ "กินข้าว" เพราะเป็นเวลา
ที่ผมและเพื่อนๆ ได้เล่นด้วยกันและเวลานั้นก็มาถึงประมาณบ่าย 4 โมงเย็น
พองานเสร็จผมก็จะไปวิ่งเล่นคนเดียวอีกอย่างหนึ่งที่ผมทำได้เร็วคือ "กินข้าว" เพราะเป็นเวลา
ที่ผมและเพื่อนๆ ได้เล่นด้วยกันและเวลานั้นก็มาถึงประมาณบ่าย 4 โมงเย็น
ผมอยู่กับเพื่อนสามคน
เพื่อนคนที่ 1 ให้ผมเอากระบอกไม้ไผ่มาใส่ทรายให้เต็มแล้ว ให้ผมวางใว้ข้างล่างสไลเดอร์จากนั้น
เพื่อนคนที่ 1 ก็ถีบเพื่อนคนที่ 2 ลงมาจากสไลเดอร์พอเพื่อนคนที่ 2 ลงมาด้วยความเร็วคงที่ก็เกิดการปะทะเข้าอย่างจังภาพที่ผมเห็นคือเพื่อนคนที่ 2 "หัวแตก" เหมือนตอนที่ผมทำเพื่อนที่อยู่
โรงเรียนเอื้อแววมณีเป๊ะ
เพื่อนคนที่ 1 ให้ผมเอากระบอกไม้ไผ่มาใส่ทรายให้เต็มแล้ว ให้ผมวางใว้ข้างล่างสไลเดอร์จากนั้น
เพื่อนคนที่ 1 ก็ถีบเพื่อนคนที่ 2 ลงมาจากสไลเดอร์พอเพื่อนคนที่ 2 ลงมาด้วยความเร็วคงที่ก็เกิดการปะทะเข้าอย่างจังภาพที่ผมเห็นคือเพื่อนคนที่ 2 "หัวแตก" เหมือนตอนที่ผมทำเพื่อนที่อยู่
โรงเรียนเอื้อแววมณีเป๊ะ
จากนั้นครูก็อุ้มเพื่อนผมไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากนั้นผมก็กลับบ้าน วันต่อมาผมก็ยังเล่นกับเพื่อนอีกตามเคย
เพื่อนๆ ทุกคนรักพี่ชาติครับ
ตอบลบตอนนี้เป็นผู้นำเพื่อน ไม่มีใครหัวแตกอีกแล้ว
ขอบคุณเรื่องจากพี่ชาติ