วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ผมเลขที่ 17 นะครับครู

      ช่วงบ่ายโมงแสงแดดอ่อนๆ กลางเดือนสิบเอ็ดลมเหมันต์ที่พัดผ่านมาแต่ละครั้งทำเอาครูและเด็กๆ มัธยมหลายๆ คนตัวสั่นระริก
       ช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวข้าวจากแปลงนาของโรงเรียนฯ ก็เลยต้องขอใช้สนามบาสฯ ซึ่งเป็นสนามอเนกประสงค์เพียงแห่งเดียวที่สามารถใช้ตากข้าวได้เป็นสนามที่เด็กๆ มัธยมจะใช้เล่นกีฬาร่วมกันในช่วงเลิกเรียน ส่วนบริเวณอื่นเป็นสนามหญ้าที่เขียวขจีโดยบริเวณทั่ว เด็กๆ อนุบาลกับเด็กประถมก็วิ่งเล่นกันอย่างเพลิดเพลินสนุกสนามทุกๆ ตอนเย็นระหว่างรอผู้ปกครองมารับกับคุณครูทั้งชาย-หญิงที่ร่วมเล่นกับเด็กๆ
       ที่ระดับมัธยมวันนี้คุณครูจัดกิจกรรมการละเล่น โดยให้พี่ๆ ม.3 สอนน้องๆ ม.1 กับ ม.2 เป็นกิจกรรมที่เด็กๆ คิดขึ้นจัดเป็นฐาน เพื่อนให้ทุกคนได้เข้าร่วมกิจกรรม เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่ๆ กับน้องๆ อย่างมีไมตรีจิตที่ดีต่อกันและกัน


_พอเสร็จกิจกรรมก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน ทุกคนได้มานั่งวงกลมร่วมกันบริเวณสนามหญ้ามัธยม ครูณีเป็นผู้คอยอำนวยกิจกรรมต่อ โดยพาครูและเด็กๆ เล่นกิจกรรมสลับที่นั่ง, มอญซ้อนผ้า แต่ก็มีเหตุเกิดขึ้นที่พวกเราทุกคนต่างฉงนสนเท่ห์กันทุกคน
ครูณี “ให้พี่ๆ ม.1, ม.2, ม.3 นั่งเรียงติดกันในวงกลม โดยให้เลขที่ 1 นั่งด้วยกัน..จนถึงเลขที่สุดท้าย” หลังสิ้นเสียงคุณครู เด็กๆ พากันวิ่งกันไปคนละคนละทาง และพากันมาเรียงในวงกลมที่ละ 3 คน จนเกือบเต็มครบวงกลม
       ก็จะมีแต่..พี่ออดี้ที่ยืนหมุนซ้ายทีหมุนขวาทีที่จะหาคนพี่ๆ ม.2 กับ ม.3 ที่มีเลขที่ 17 เหมือนกับเขา สุดท้ายแล้ว เหลือเพียงพี่ออดี้คนเดียวที่กำลังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงกลางวงกลมใหญ่ โดยที่มีทั้งครูมัธยมทุกคน(5 คน) และเด็กๆ มัธยมทุกคน(เกือบๆ 60 คน) ล้อมรอบเขาอยู่ในเวลานี้ พี่ออดี้ก็ค่อยๆ เดินกลับไปนั่งที่เดิมของตนเองในวงกลม โดยทุกสายตาต่างมองมาหาพี่ออดี้ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มเบิกบานเสมอ

     ทามกลางเสียงพูดคุยกันของเด็กๆ มัธยมและเสียงหัวเราะของพี่ๆ น้องๆ ที่เล่าสู่กันฟังในตอนนั้น

ออดี้ “เอ่อ...ครูณีครับ.. เมื่อกี้นี้นะครับ..ครูรู้ไหมครับ.. ว่าเหมือนกับคุณครูฆ่าผมให้ตายเลยนะนั่น!” พี่ออดี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นสั่นเครือ ใบหน้าอันเบิกบานยิ้มแย้มตลอดเวลาของเขาพยายามมองไปหาครูณีที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม แต่ครูณีกับทุกคนก็แทบไม่ได้ยินเสียงอันแผ่วเบาของที่พี่ออดี้ที่พูดออกมารอบที่ 1
ออดี้ “เอ่อ...ครูณีครับ.. เมื่อกี้นี้นะครับ..ครูรู้ไหมครับ.. ว่าเหมือนกับคุณครูฆ่าผมให้ตายเลยนะนั่น” หลังสิ้นเสียงที่พี่ออดี้พูดประโยคเดิมเปะ ครูณีและทุกคนก็ต่างสนใจในการพูดของพี่ออดี้ในรอบที่ 2 นี้มากขึ้น
ครูณี “เดี๋ยวๆๆ..ทุกคนเงียบๆก่อนนะคะ.. ฟังๆ พี่ออดี้จะพูดอะไร?” เสียงต่างๆ เงียบกริบขึ้นมาทันใดหลังสิ้นสียงของครูณีเชิญชวนฟังพี่ออดี้จะพูด ครูณีพูดต่อ “เชิญพี่ออดี้พูดค่ะ” ครูทุกคนและเด็กทุกคนต่างตั้งใจฟังกับสิ่งที่ออดี้กำลังจะบอกออกมา
ออดี้ “เอ่อ...ครูณีครับ.. เมื่อกี้นี้นะครับ..ครูรู้ไหมครับ.. ว่าเหมือนกับคุณครูฆ่าผมให้ตายเลยนะนั่น” ครูณีและทุกคนต่างตะลึงกับสิ่งที่พี่ออดี้พูดออกมา แต่ทุกคนก็มาทบทวนสิ่งที่พี่ออดี้พูดออกมาอย่างอารมณ์ดี

       ชั้น ม.3 มีเด็กๆ 16 คน และชั้น ม.2 มีเด็กๆ 16 คน ส่วนเด็กๆ ม.1 มี 17 คน และพี่ออดี้เลขที่ 17 จึงไม่มีคู่ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำเอาพี่ๆ เพื่อนๆ และคุณครูต่างพากันอมยิ้มอย่างปีติสุขใจกับท่าทางอันน่ารักของพี่ออดี้ที่บอกความรู้สึกออกมา ครูณีหัวเราะจนหน้าแดงและพูดต่อ..
ครูณี “พวกเราทุกคน..’ขอโทษพี่ออดี้’ พร้อมกันค่ะ” ครูณีพูดออกไปเหมือนจะกลั้นเสียงหัวเราะแทบไม่อยู่
ทุกคน “ขอโทษนะครับออดี้ / ขอโทษนะคะออดี้ ” เสียงดังกระหึมที่เปล่งออกมาพร้อมเพรียงกันปะหนึ่งเสียงประสานที่ฝึกซ้อมกันมานานเนิ่น

สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้งเหตุการณ์ที่เด็กๆ กับคุณครู ต่างพากันอมยิ้มกับเรื่องราวที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเล่าเก็บไว้..

1 ความคิดเห็น: