วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559

ลำปลายมาศ-สุรินทร์

05:00 เตรียมตัวออกจากบ้านเพื่อที่จะไปโรงเรียน
พอมาถึงโรงเรียน(อากาศยามเช้าๆหนาวมาก) เจอกับรุ่นน้องผู้ชายคนนึง...เรานั่งรถไปสถานีลำปลายมาศด้วยกัน ขณะที่ลงจากรถสายตามองไปเห็นเพื่อนๆที่อยู่ตรงหน้า ก็เลยเดินเข้าไปทักทายตามประสาเพื่อน พวกเราต่างก็พากันนั่งรอเพื่อนๆ กลุ่มที่มุ่งหน้าไปยังปากช่องเดินทางไปเรียบร้อยแล้ว

กลุ่มของพวกเรายังมาไม่ครบเลย ประเด็นคือ เรานั่งรอรถไฟตั้งแต่05:10 -07:00 รถไฟขบวนที่ไปสุรินทร์ยังไม่มาเลย ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงรถไฟขบวนที่ไปสุรินทร์ก็มาถึง พวกเราทุกคนตื่นเต้นและดีใจกันมากๆ ขณะที่เดินขึ้นไปบนรถไฟ ฉันไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการเดินทางบนรถไฟเลยเพราะฉันเดินทางบนรถไฟบ่อยมากๆ ขณะเดียวกันนั้นคนอื่นๆดูเหมือนจะตื่นเต้นกับการเดินทางบนรถไฟมาก ฉันเดินไปเลือกที่นั่ง เดินไปจนเกือบสุดตู้สุดท้ายของรถไฟ เดินวนไปวนมา สุดท้ายก็ได้ที่นั่งข้างๆขอบหน้าต่าง ที่เลือกนั่งตรงนั้นเป็นเพราะว่า จะได้เห็นบรรยากาศต่างๆและได้รับลมที่เย็นสบาย รถไฟเริ่มเคลื่อนที่ออกจากสถานีลำปลายมาศเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีสุรินทร์ การเรียนรู้ก็เริ่มขึ้นแล้ว ชายชราวัย74ปี(ชาวญี่ปุ่น –ครูอะกิ) ร่วมเดินทางไปกับเราด้วย พวกเราเดินชมเมือง สอบถามผู้คนเกี่ยวกับประวัติของชาวสุรินทร์  
หนูสะดุดใจตรงนึงก็คือ พิธีชงชาแบบจีน ซึ่งมันเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมาก เราเดินไปทั่วสารทิศ ผ่านวงเวียนช้าง แล้วพวกเราก็มุ่งหน้าไปยังศาลหลักเมือง(แวะเยี่ยมชม) สุรินทร์โดเด่นเรื่องช้าง(ซึ่งพวกเราพลาดโอกาสที่จะได้ไปดูช้าง เพราะถ้าจะไปต้องเดินทางออกจากตัวเมืองไปอีกไกล)พวกเราพักกินข้าวที่ร้านอาหาร บางคนสั่งข้าวกิน แต่หนูประหยัดเงิน(ห่อข้าวไปเอง) แล้วพวกเราก็เดินทางกลับโดยรถไฟ การเดินทางสนุกมากค่ะ ขอบคุณทุกๆคนในกลุ่มที่ร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ และหวังว่าเราจะได้เดินทางร่วมกันอีกครั้ง

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

ความรัก

 ความทรงจำดีๆ ที่มีต่อกัน...

       วันที่จันทร์ที่ 7 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2559  ได้มีกิจกรรมทำร่วมกับพี่ๆน้อง หลังจากพี่ๆ ม.2 ได้วางแผนกับน้องๆ ม.1 มานาน  กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมสุดท้ายที่พวกเราจะได้ทำกับพี่ๆ ม.3
    ช่วงเช้าพวกเราได้พาพี่ๆ เล่นเกมส์ ทุกคนดูสนุกกับเกมส์มากเลยค่ะ พอถึงตอนเที้ยงพวกเราก็ไปนั่งกินข้าวรวมกับพี่ๆ แล้วสลับถาดกับพี่ล้าง พอตอนบ่าย พวกเราก็มีกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ตอบแทนพี่ม.3
พวกเราร้องเพลงให้พี่ๆฟังง แล้วพูดความในใจกับพี่ๆ แต่ละคน

        หามิตรภาพที่มีแต่ความจริงใจต่อกันและกันแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว...
        หาความรัก ความปราถหนาดีไม่ได้อีกแล้ว...

                                     มีแต่ที่นี่ โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา


    ขอบคุณวันเวลา และโชคชะตาที่ทำให้เราได้มาเจอ พี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆ ที่ดีแบบนี้

ก้าวที่สองของมัธยม

                                 ก้าวที่สองของมัธยม
      ความรู้สึกแรกที่เข้ามาอยู่ ม.2 บอกได้เลยว่า กลัว กลัวที่จะทำหน้าที่ของพี่ ม.2 ได้ไม่ดีมากพอ แต่ความกลัวนั้นก็หายไป เมื่อได้เป็นผู้นำกิจกรรมหลายๆ กิจกรรมให้กับน้องๆ หรือพี่ๆ
      แน่นอนว่าการที่เราเริ่มโตขึ้นๆ หน้าที่ของเราก็ต้องเพิ่มขึ้น และความรับผิดชอบของเราก็ต้องเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน พี่ๆ ม.2 ได้มีโครงการ หนึ่งงานหนึ่งล้านแรงบันดาลใจ ที่คุณครูใหญ่ได้มอบให้พวกเราดูแล เริ่มตั้งแต่การผสมดิน ไปหาดิน และส่วนผสมทีจะมาปรุงดิน แล้วพวกเราก็เริ่มลงมือปลูกผักแต่ละชนิดด้วยกัน  เลี้ยงปลาและกบด้วยกัน และพวกเราก็มีไอเดียขึ้นมาใหม่ คือเพาะเห็ด มีผู้ปกครองมาช่วยทำบ้านของเห็ด ช่วยมาให้ความรู้เรื่องของเห็ด พวกเราลงทุนไปไม่น้อยเลยค่ะ ลงทุนทั้งแรงกาย แรงใจ ผู้หญิง ม.2และคุณครู ได้อาสามาหยอดเชื้อเห็ดตอนกลางคืน พวกเราตื่นมาตอนเที่ยงคืน เพื่อหยอดเชื้อเห็ด ทั้งหมดนี้เป็นธุรกิจอีกอย่างของห้องพวกเรา ทำโดยไม่หวังผลกำไล และทำอย่างตั้งใจ จนทำให้พื้นที่เล็กๆนี้ กลายเป็นสวนเล็กๆของพี่ ม.2 ได้ หนูขอขอบคุณ คุณครูใหญ่ และคุณครูทุกท่านที่ให้โอกาสพวกเราได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ เราไม่ได้เรียนรู้แค่การปลูกผัก แต่เราได้เรียนรู้ มิตรภาพจากพี่ๆ และน้องๆที่มาช่วยทำ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย สามารถนำมาให้คำแนะนำกับครอบครัวของตัวเองได้อีกด้วย
 


ไม่มีจุดหมาย...ไม่มีที่สิ้นสุด

เราได้เดินทางไปยังจังหวัดสุรินทร์ โดยจุดหมายของการเดินทางครั้งนี้ เรามีจุดหมายคือการเรียนรู้ระหว่างการเดินทาง เราได้วางแผนการเดินทางแต่ไม่มีจุดหมายขึ้น ซึ้งผมว่าน่าสนใจเลยที่เดียว เวลา 07:00 น. เราก็มารวมกันที่สถานณีรถไฟ 07;30 น. เราก็ออกเดินทาง เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างในตอนนั่งบนรถไฟ ไม่ว่าจะเป็น การขายอาหาร เครื่องดื่ม ซึ้งต้องแพงกว่าปกติ เรานั้งบนรถไฟประมาณ 30 นาที่ เราก็มาถึงสถานณีรถไฟสุรินทร์ เราเดินทางรอบๆสถานณี เพราะ เวลา 15;30 น. เราต้องเดินทางกลับ สถานที่ที่เราไปกฌมี ศาลหลักเมือง วงเวียนช้าง สุริมทร์พลาซ่า ระหว่างที่เราเดินทางเราก็เจอกับครูอ้นและอาจารย์นฤมน ครูก็แนะนำสถานที่เทียว ขากลับผมลง สถานณีทะเมนชัยและการเดินทาางของเราก็จบลง

ครุ่นคำนึง

ฉันชื่อเด็กหญิง ภัคทิรา ทุมตา ชื่อเล่น ตุ๊กตา อายุ 14ปี
    ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยได้อะไรเท่าเทียมกับพี่และน้องฉันเลย บ่อยครั้งที่ฉันมีความรู้สึกเสียใจ/น้อยใจ แต่ทุกๆครั้งก็จะมีคนคอยปลอบฉันอยู่เสมอโดยการใช้วาจาที่ไพเราะเสนาะหู ตอนนั้นยังเด็กฉันจึงมีความคิดแบบนั้น ฉันยังไม่รู้อะไรมากเพราะความเป็นเด็ก(อยู่ในอ้อมกอดของครอบครัว) กาลเวลาหมุนไปฉันก็โตมาอีกระดับ ฉันได้เจอเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ฉันก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี ฉันเจอปัญหามากมายเลย จนบางทีฉันรับมันไม่ไหว ฉันต้องการที่จะให้คนอื่นได้รับรู้ถึงสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญอยู่ต่อหน้า ในความรู้สึกตอนนั้นฉันไม่อยากให้ปัญหานั้นมันเกิดขึ้นเลย แต่ทุกๆครั้งที่เจอเรื่องราวแบบนี้ ฉันก็สามารถแก้และปรับเปลี่ยนให้มันดีขึ้นได้ด้วยตัวของฉันเอง ปัญหาทุกปัญหา เรื่องราวทุกเรื่องราว ที่ฉันได้เจอกับตัวเองทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย ทำให้ฉันกลับมาคิดย้อนดูตัวเอง(ทบทวนตัวเอง)
   
   สิ่งที่เด่นชัดในตัวของฉัน ฉันว่าน่าจะเป็นทางด้านของการพูด เพราะคนรอบข้างบอกกับตัวฉันว่า ฉันเป็นคนพูดมีสาระมากๆฉันภูมิใจในตัวเองที่เป็นแบบนี้ ฉันเชื่อในตัวเองมากๆ ถ้าฉันมีความตั้งที่จะทำอะไรฉันก็จะทำให้ถึงที่สุดเท่าที่ตัวฉันจะทำได้

   
    

   โดยส่วนตัวฉันเป็นคนชอบทางด้านของภาษเอามากๆเลยหล่ะ เรียกได้ว่าเป็นชีวิตจิตใจของฉันเลยก็ได้ ฉันตั้งใจไว้ว่าขึ้นม.4 ฉันจะเข้าเรียนต่อสาย ศิลป์-ภาษา แต่คนทางบ้านไม่เห็นด้วยกับฉันเลย ฉันจึงพยายามพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า สิ่งที่ฉันหวังไว้มันจะต้องเป็นจริงให้ได้ ฉันได้มีโอกาสคุยเรื่องการเรียนกับคนที่บ้าน เราก็คุยกันปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จริงๆแล้วภายในใจของฉันนั้น ฉันแทบไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องคิดคนละแบบกับฉัน? คุยกันไปคุยกันมา สิ่งที่ฉันสงสัยนั้นมันก็ตอบโจทย์ของฉัน (วิทย์-คณิต มันต่อได้หลายทาง) (ศิลป์-ภาษา มันเลือกได้น้อย) ฉันเริ่มสับสนกับตัวเองแล้วว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อดี? แต่พอกลับมาคิดดีๆ มันก็ยังเหลือเวลาอีกมากที่จะคิดเรื่องเรียน แต่ถ้าคิดไว้เนิ่นๆมันก็ดีไปอย่าง คนเรามันมีอะไรที่ไม่แน่นอนในชีวิตหรอก เราต้องค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ก้าวข้ามไปทีละขั้น อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจอะไรไป ชีวิตเราต้องเจออะไรอีกมากมาย (ทำทุกอย่างให้สนุก มีความสุขกับสิ่งที่ทำ)

ณ ปากช่อง

สถานีสถารัก 
สถานีรถไฟลำปลายมาศ
 เป็นชื่อรายการของพวกเราในระหว่างไปเดินเรียนรู้ที่ปากช่องค่ะ  เราได้ไปกันสองห้องคือมอหนึ่งและมอสอง กลุ่มของหนูได้ไปที่ปากช่อง และอีกอย่างหนูยังได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มอีกด้วยค่ะ พวกเราเดินทางโดยรถไฟค่ะ พวกเราออกจากสถานีลำปลายมาศตอน 6 โมงกว่าๆ ค่ะ
  ในระหว่างนั่งเดินทางไปพวกเราก็ได้ศึกษาวิถีชีวิตของผู้คนบนรถไฟค่ะ พวกเราเดินทางถึงสถานีปากช่องในเวลา 11 โมงกว่าๆค่ะ อย่าแรกที่พวกเราทำเลยคือไปดูแผนที่ในปากช่องว่าเราจะไปที่ไหนอย่างไรบ้างค่ะ  แล้วพวกเราก็ได้ตัดสินใจเหมารถสองแถว ในราคา 1000 บาท ไปเที่ยวสามที่คือ
ปาริโอ้ บ่อน้ำผุดธรรมชาติ พาโนราม่าฟาร์ม(ฟาร์มเห็ด) พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวอย่างเดียวพวกเราได้ไปศึกษาดูอะไรมากมายเลยค่ะ
สถานีปากช่อง
  แล้วปัญหก็เกิดในตอนที่เราจะกลับคือ เราไม่รู้จะกลับรถไฟ หรือรถทัวร์ดีค่ะ แต่ละคนก็ออกเสียงไม่เหมือนกัน บางคนอยากกลับรถบัสเพราะสดวกสบาย บางคนอยากกลับรถไฟเพราะประหยัด ส่วนตัวหนูๆอยากกลับรถไฟค่ะ เพราะบางคนเงินก็แทบไม่เหลือแล้ว แต่คุณครูก็ให้เราเคลียร์ปัญหากันเอง ตัวหนูเป็นหัวหน้าก็ถือว่าค่อนข้างจะหนักเพราะเราต้องฟังความเห็นของน้องๆ เพื่อนๆ ว่าเพราะอะไร ในที่สุดเสียงที่มากกว่าคือ กลับรถทัวร์ค่ะ หนูก็เลยตัดสินใจกลับทัวร์ค่ะ ใครที่เงินไม่พอพวกเราก็แก้ปัญหาโดยการ ให้ยืมกันก่อนค่ะ การเดินทางครั้งนี้


จะเป็นประสบการณ์ และความทรงจำของหนูตลอดไปค่ะ..

ปากช่อง

ปากช่อง
ผมได้ออกเดินทางในเวลา06:30และเป็นกลุ่มแรกที่ออกเดินทาง
และในการเดินทางผมก็ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตผู้คนบนรถไฟ ตอน
ผมบนรถไฟก็มีคนเยอะ และก็ถึงปากช่องเราก็คิดว่าเราจะไปไหน
แต่เราก็ไปวัดเป็นที่แรกและก็ไปเม่ารถไปอีกสอมที่และเราเสีย
ค่ารถ1000บาทและเราก็ไปน้ำพรุดและเราก็กลับ จนเกิดปัญหา
เรื่องการกลับบ้านรถเมร์และถึงกลุ่มสุดท้าย